เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT80-L205
หรือที่เรียกกันว่าเครื่องตัดพลาสม่าระบบอินเวอร์เตอร์ เป็นระบบ PILOT ARC (ARC-START) ใช้ฟ้า 3 เฟส (380 โวลต์) กระแสไฟในการตัด 80 แอมป์ สามารถตัดโลหะนอกกลุ่มเหล็กได้ดี เช่น สแตนเลส และอลูมิเนียม ตัดโลหะได้หนาสุด 35 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม
ภาพรวม (Product Overview)
เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT80-L205 หรือที่เรียกกันว่าเครื่องตัดพลาสม่าระบบอินเวอร์เตอร์ เป็นระบบ PILOT ARC (ARC-START) ใช้ฟ้า 3 เฟส (380 โวลต์) กระแสไฟในการตัด 80 แอมป์ สามารถตัดโลหะนอกกลุ่มเหล็กได้ดี เช่น สแตนเลส และอลูมิเนียม ตัดโลหะได้หนาสุด 35 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม
จุดเด่น (Features)
- เป็นระบบ PILOT ARC มีฟังก์ชันที่สามารถปรับตั้งค่าแบบออโต้หรือแมนนวลได้
- มีระบบป้องกัน GAS LOCK ป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องเกิดความเสียหายได้
อุปกรณ์ในกล่อง
1. เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT80-L205
2. หัวตัดพลาสม่า รุ่น P80 พร้อมสายตัดขนาด ยาว 5 ม.
3. สายดิน 300 แอมป์ ขนาด 16 ตร.มม. ยาว 3 m
4. ข้อต่อและอุปกรณ์ต่างๆ
5. คู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษและใบรับประกัน
การใช้งาน (Applications)
เครื่องตัดพลาสมา JASIC รุ่น CUT80-L205 สามารถตัดโลหะได้ดี ราบเรียบ แนวตัดมีความสวยงาม ตัดโลหะได้ทุกประเภท เช่น เหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม ทองเหลือง เป็นต้น ประหยัดกว่าการใช้แก๊สตัด การเกิดอันตรายค่อนข้างน้อย ชิ้นงานที่ตัดไม่เกิดการเสียรูปทรง ไม่บิดหรืองอ ใช้คู่กับปั๊มลมในการตัด
ข้อควรปฏิบัติ/ข้อควรระวังในการใช้งาน (Do and Don’t)
- ก่อนใช้งานทุกครั้ง ควรใส่อุปกรณ์ ป้องกัน เช่น แว่นตากันสะเก็ด ถุงมือหนัง หน้ากากป้องกันฝุ่น
- ปลั๊กไฟต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งาน ตรวจสอบอุปกรณ์ เช่น สายตัด สายกราว ข้อต่อหน้าเครื่อง ไม่ให้เกิดความเสียหายหรือมีรอยรั่ว
- ไม่ควรดัดแปลงตัวเครื่อง หรือสายตัด หรืออุปกรณ์ส่วนอื่น หากมีการชำรุดของอุปกรณ์ต่างๆ ให้รีบเปลี่ยนทันที
- ห้ามใช้งานใกล้กับวัสดุที่ติดไฟง่าย หรืออุปกรณ์บรรจุวัตถุไวไฟ
- ในการใช้งานต้องต่อสายดินทุกครั้ง
การบำรุงรักษา (Maintenance)
- ตรวจสอบกำลังไฟขาเข้าให้ถูกต้อง ตามความต้องการของเครื่องตัวนั้นๆ
- หลังจากหยุดการใช้เครื่องแล้ว ควรปล่อยให้พัดลมระบายอากาศของเครื่องทำงานอย่างน้อย 10 - 15 นาที โดยเปิดเครื่องค้างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนไปสะสมที่แผนวงจร และป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์ภายใน
- ควรจะเป่าฝุ่นออกอย่างน้อยเดือนละ 1 - 2 ครั้ง เพราะฝุ่นละอองเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ เกิดความเสียหายได้ถ้ามีการสะสมมากๆจะทำให้ระบบวงจรบกพร่อง การไหลของวงจรกระแสไฟไม่ดีเท่าที่ควร